อัตราส่วนน้ำต่อกาแฟ' พื้นฐานการชงกาแฟไม่ควรมองข้าม

โดย Admin Pitbull Coffee 17/12/2563 เวลา 22:03 น.



การชงกาแฟโดยการใช้ฟิลเตอร์กรอง (Filter Coffee) )แบบต่าง ๆ ทั้งแบบ ดริป (Drip, Pour-Over) เฟรชเพรส (French Press) ไซฟ่อน (Syphon) แอโร่เพรส (Aeropress) หรือการชงรูปแบบอื่น ๆ ต่างก็ต้องใช้อัตราส่วนของปริมาณผงกาแฟต่อปริมาณน้ำที่ใช้ในการสกัดกาแฟ ซึ่งเราสามารถใช้อัตราส่วนนี้ได้ตั้งแต่ 1:10 – 1:20 (ex. 1:10 จะใช้ ผงกาแฟ 1 g. น้ำ 10 g.) ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่เราต้องการได้จากกาแฟที่ใช้ ยิ่งอัตราส่วนของน้ำน้อยเท่าไร กาแฟยิ่งเข้มข้นมากขึ้น และในทางกลับกันยิ่งอัตราส่วนของน้ำยิ่งมาก ยิ่งทำให้รสชาติกาแฟจางลง

ซึ่งกาแฟแต่ละตัวจะมี Ratio เป็นของตัวเอง เราต้องตามหา Ratio ที่เราชอบกาแฟตัวเดียวกันแต่ละคนอาจจะชอบคนละ Ratio ก็ได้ผมแนะนำว่าได้กาแฟมาชงตอนแรกชงที่ 1:15 (ex. ผงกาแฟ 20 g. น้ำ 300 g.) เป็น base ไปก่อนแล้วถ้าชอบแบบไหนก็ปรับลดไปเพื่อหารสชาติที่ตัวเองชอบมากที่สุด

ซึ่งในการชงกาแฟแต่ละชนิด อาจใช้อัตราส่วนของกาแฟที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น กาแฟโทนกลิ่นผลไม้ ดอกไม้ และรสเปรี้ยวที่ชัดเจนอยู่แล้ว อาจใช้อัตราส่วนที่ 1:15 หรือ อาจใช้อัตราส่วนที่ 1:12 เพื่อเน้นกลิ่นโทนถั่ว บอดี้ และรสหวานของกาแฟให้ชัดเจนขึ้นสำหรับกาแฟที่เด่นเรื่อง Body ดังนั้นเราต้องทดลองหาดูว่ากาแฟแต่ละชนิดมีความเหมาะสมกับอัตราส่วนในการชงที่เท่าใด (ไม่มีข้อตายตัวนะครับ)

Brewing ratio เป็นแค่ 1 ปัจจัย 

ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เราต้องมองควบคู่ไปด้วยคือ เมล็ดที่ใช้ชง อุณหภูมิ เบอร์บด น้ำที่ใช้ ความถี่ในการเทน้ำ เวลาที่ผงกาแฟอยู่กับน้ำ Flowrate ประเภทดริปเปอร์แต่ไม่ว่าจะมีปัจจัยเยอะแค่ไหนถ้าเราเจอรสชาติที่เราชอบไว้ควรจำไว้เลยว่าเราใช้ปัจจัยอะไรในการชงครั้งนั้นหรือถ้าอยากได้รสชาติอะไรเพิ่มเติมควรปรับทีละปัจจัยเพื่อจะทำให้ไม่สับสนและจะได้จับจุดถูกว่ารสขาตินี้มาจากที่เราปรับอะไรไป

ขอบคุณ   Bean to brew
www.pitbullcoffee.com

สาระน่ารู้เกี่ยวข้อง